รายงานพิเศษ: สุขภาพที่สมบูรณ์ - เรื่องราว, จุดเริ่มต้น และสิ่งที่ต้องทำ

โดย Horst S.Filtzer, MD, F.A.C.S. อดีตหัวหน้าแผนกศัลยกรรมโรงพยาบาลเคมบริดจ์โรงเรียนแพทย์ฮาร์วาร์ด

         ปัจจุบัน ผู้คนอยู่ในภาวะขาดน้ำเรื้อรังจากการดื่มน้ำอัดลม, แอลกอฮอล์, กาแฟและ อื่น ๆ เป็นประจำ       น้ำ คือสิ่งที่เลี้ยงเซลล์ประมาณ 75 ล้านล้านเซลล์ในร่างกายของเรา ซึ่งกระตุ้นปฏิกิริยาทางเคมีที่ก่อให้เกิดและยืดอายุเซลล์

        “เซลล์” เป็นหน่วยที่เล็กที่สุดของสิ่งมีชีวิต (ทั้งพืชหรือสัตว์) ที่มีชีวิตอิสระซึ่งเป็นส่วนประกอบของชีวิต       ทุกวินาที  ไม่ว่าเราจะรู้หรือไม่ก็ตาม  เซลล์ใหม่ ๆ นับล้าน ๆ เกิดใหม่ในกระบวนการสร้างตัวเองที่ไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยของร่างกาย       เซลล์เป็นหน่วยการทำงานที่สร้าง “เนื้อเยื่อ” ที่มีสุขภาพดี       เนื้อเยื่อทำงานร่วมกันเพื่อสร้าง “อวัยวะ” ที่แข็งแรง       อวัยวะทำงานร่วมกันเพื่อสร้าง“ ระบบ” ที่ดีต่อสุขภาพ ระบบทำงานร่วมกันเพื่อสร้างสิ่งมีชีวิต (หรือร่างกาย)       ร่างกายของเราเป็นชุดของระบบที่ซับซ้อนมาก  ตั้งแต่ระบบภูมิคุ้มกัน ไปจนถึงระบบ
ทางเดินหายใจ, ระบบย่อยอาหาร และอื่น ๆ       เพื่อให้ร่างกายของเราทำงานได้อย่างถูกต้อง  เราต้องมีสุขภาพที่แข็งแรง และมีการทำงานที่ดีของเซลล์       ในความเป็นจริง  โรคทั้งหมดมีต้นกำเนิดในระดับเซลล์   นี่คือจุดที่น้ำเข้ามามีบทบาทสำคัญ

      น้ำ ทำหน้าที่ขนส่งสารอาหารไปเลี้ยงทุกเซลล์ในร่างกายมนุษย์     สารอาหารเหล่านี้มีความสำคัญต่อกระบวนการที่ช่วยให้เซลล์ในร่างกายของเราอยู่ในสภาพที่คงที่ของการเติมเต็มและการสร้างใหม่       น้ำเป็นส่วนประกอบประมาณ 60% ของร่างกาย   เป็นส่วนประกอบสำคัญของเนื้อเยื่อของกล้ามเนื้อ, กระดูก, ผิวหนังและเลือด     เลือดของเรานั้นประกอบด้วยพลาสมาประมาณ 55% ซึ่งประกอบด้วยน้ำ 95%      กระแสเลือดคือแหล่งที่มาอย่างต่อเนื่องและไหลเวียนสำหรับการบำรุง และกำจัดของเสียที่เป็นกรดตกค้างภายในเซลล์

         ในขณะที่หัวใจสูบฉีดเลือดไปยังเซลล์ต่างๆทั่วร่างกาย   พลาสมาจะช่วยบำรุงเซลล์ และขจัดของเสียออกไป       การเผาผลาญ (Metabolism) เป็นชุดของปฏิกิริยาทางเคมีที่เกิดขึ้นในสิ่งมีชีวิตเพื่อดำรงชีวิตอยู่    กระบวนการเหล่านี้ทำให้สิ่งมีชีวิตเติบโต และสืบพันธุ์รักษาโครงสร้าง และตอบสนองต่อสภาพแวดล้อม      ในกระบวนการเมตาบอลิซึม  เซลล์จะย่อยสารอาหาร และเปลี่ยนเป็นของเสีย หรือสารพิษ ซึ่งเป็น by-products ของการทำงานของเซลล์ และการสร้างเซลล์ใหม่       ไม่มีวิธีธรรมชาติอื่นในการกำจัดสารพิษ  นอกจาก hydration
(น้ำเยอะ ๆ ) ซึ่งช่วยกระตุ้นการเผาผลาญ       เราสามารถพูดได้ว่า  น้ำเป็นส่วนประกอบที่สำคัญที่สุดของการให้อาหาร และการทำความสะอาดเซลล์

        คุณทราบหรือไม่ว่า 30% ของการเผาผลาญของร่างกายเกิดขึ้นในสมอง       คุณต้องการที่จะรู้สึกตื่นตัวมากขึ้น และอยู่เหนือสถานการณืต่างๆหรือไม่?       คุณอยากปวดหัวน้อยลง  ปัญหาผิวหนัง, ปวดข้อ และปัญหากล้ามเนื้อลดลง   มีพลังกายมากขึ้นและดีขึ้น  มีการย่อยอาหารดีขึ้นหรือไม่?       วิธีที่เราเสริมพลังให้ร่างกายทำงานในระดับเซลล์มีผลต่อเรา      สุขภาพเริ่มต้นที่โครงสร้างพื้นฐานของชีวิต และวิธีที่เราเตรียมเซลล์ของร่างกายเพื่อดูดซึมสารอาหาร ซึ่งได้รับผลกระทบอย่างมากจากปริมาณและคุณภาพของน้ำที่เราดื่ม!

        ร่างกายมนุษย์ทำงานได้ดีที่สุดเมื่อของเหลวในเลือดและเนื้อเยื่อไม่เป็นด่างหรือเป็นกรดมากเกินไป       หากความเป็นกรดของเลือดและของเหลวในเนื้อเยื่อสูงผิดปกติ  เรียกว่า ภาวะเลือดเป็นกรด ส่งผลให้เกิดปฏิกิริยาทางเคมีในระดับเซลล์ที่มีระสิทธิภาพน้อยลง   นำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนทางสุขภาพ       อัตราการเผาผลาญของเซลล์ได้รับผลกระทบจาก pH ของร่างกาย       pH ของเลือดมนุษย์ และหลอดเลือดที่มีสุขภาพดี จะมีช่วงที่แคบมากคือ 7.35 ถึง 7.45       การเปลี่ยนแปลงค่า pH ของเลือดแดงที่อยู่นอกช่วงนี้  ส่งผลให้เกิดความเสียหายของเซลล์ที่ไม่สามารถย้อนกลับได้ และความสามารถในการต้านทานโรคหมดลง        

      ลองคิดถึงอาหารที่เรารับประทานบ่อยๆ  ซึ่งทำให้เราไม่เพียงแต่ขาดน้ำมากขึ้นเท่านั้น  แต่ยังเป็นกรดในเวลาเดียวกันด้วย      โซดา, น้ำอัดลม และกาแฟทำให้เราขาดน้ำ และยังทำให้ระดับ pH ที่เป็นกรดสูงเข้าสู่ร่างกาย       pH ของน้ำอัดลม และน้ำอัดลมชนิดไดเอ็ด มีตั้งแต่ 2.47-3.35 (กรดจากแบตเตอรี่คือ 1.0)       กาแฟเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีการซื้อขายมากที่สุดเป็นอันดับสองของโลก   และในขณะที่เราดื่มกาแฟเป็นแกลลอนๆ เข้าไปในร่างกาย   เราก็รับค่า pH ระหว่าง 5.0 ถึง 5.5 ด้วย   ทั้งหมดนี้ก่อให้เกิดความเป็นกรดสูง (มี pH น้อยกว่า 7.0) ในร่างกายของเรา     คิดดูสิ เราดื่มกาแฟเป็นอาหารเช้า (เป็นกรด), เบอร์เกอร์สำหรับมื้อกลางวัน (เป็นกรด), ตามด้วยน้ำอัดลมขนาดคิงไซส์ (กรด) และทานพิซซ่า (ที่เป็นกรด) สำหรับมื้อเย็น     จึงไม่ต้องสงสัยเลยว่า  เราเป็นสังคมที่ขาดน้ำและเป็นกรดสูง

สิ่งสำคัญ: กรดที่สร้างขึ้นในร่างกาย สามารถทำให้เป็นกลางได้โดยการดื่มน้ำที่มีค่า pH สูงขึ้น (อัลคาไลน์มากขึ้น) เพื่อคืนค่า pH ตามธรรมชาติที่ต้องการ     หากเราปล่อยให้ตัวเองเป็นกรดมากเกินไปจะส่งผลต่อการเผาผลาญของเซลล์, พื้นฐานของชีวิต และสุขภาพโดยรวม
         ประเด็น คือ ความสมดุลของ pH ในร่างกาย เป็นผลมาจากโภชนาการและน้ำที่ดื่ม!       ความจริงก็คือว่า การเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยสามารถสร้างความแตกต่างที่ยิ่งใหญ่ได้     ดังนั้น  เราจะเปลี่ยนจากสภาวะที่เป็นกรดเกินไป และขาดน้ำ  ให้เป็นปกติมากขึ้นได้อย่างไร และกลับสู่สภาวะ pH ที่สมดุลได้อย่างไร?

วิธีง่ายๆในการดูแลสุขภาพให้ดีขึ้น

         การเผาผลาญของเซลล์ และการเติบโตของเซลล์ตามปกติ ขึ้นอยู่กับการรักษาสมดุล และปริมาณน้ำในร่างกาย และความเป็นด่าง     ดังนั้น เราจึงต้องดื่มน้ำให้มากขึ้นด้วยระดับ pH ที่สูงขึ้น เพื่อให้ร่างกายของเรากลับสู่สมดุล       ตรงข้ามกับสถานะของความเป็นกรด (pH ต่ำกว่า 7.0) คือ สถานะของความเป็นด่าง   ดังนั้น เราต้องดื่มน้ำอัลคาไลน์มากขึ้น 

การบริโภคน้ำอัลคาไลน์นำไปสู่ปริมาณน้ำในร่างกายที่ดีขึ้น

      Aquaporins เป็นโปรตีนที่ฝังอยู่ในเยื่อหุ้มเซลล์ที่ควบคุมการไหลของน้ำ คือ“ ระบบประปาสำหรับเซลล์”     โมเลกุลของน้ำเคลื่อนที่ผ่านระบบประปาของเซลล์ เพื่อนำสารอาหารที่จำเป็นเข้ามา
และจุดชนวนกระบวนการเผาผลาญของเซลล์     Aquaporins เป็นช่องเปิดสู่เซลล์อย่างแท้จริง และช่องเปิดนั้นมีขนาดเดียวกันเสมอ     ดังนั้น เพื่อให้น้ำไหลผ่านได้ น้ำต้องมีขนาดพอดีกับช่องเปิดนี้
      น้ำ มีโครงสร้าง และกลุ่มโมเลกุลต่างๆกัน จึงมีขนาดต่างกัน     น้ำอัลคาไลส์ ก่อให้เกิดกลุ่มน้ำขนาดเล็ก ซึ่งสามารถไหลผ่าน aquaporins (ช่องเปิด) เข้าสู่เซลล์ได้มากขึ้น
      โมเลกุลของน้ำ (สัญลักษณ์ทางเคมี H2O) ประกอบด้วยไฮโดรเจนสองอะตอมและออกซิเจนหนึ่งอะตอม    อย่างไรก็ตาม น้ำ มารูปกลุ่มโมเลกุล มากกว่าโมเลกุลเดี่ยว     น้ำประปามีกลุ่มโมเลกุลขนาดใหญ่มาก (10 ถึง 13 โมเลกุลต่อคลัสเตอร์)     น้ำที่ผ่านกระบวนการอิเล็คโทรไลซิส  กลุ่มของน้ำจะมีขนาดเล็กลง – ลดขนาดจากเดิมเป็นคลัสเตอร์ขนาดเล็ก (อาจจะ 5 ถึง 6 โมเลกุลต่อคลัสเตอร์)     ขนาดคลัสเตอร์ที่เล็กลงทำให้น้ำมีคุณสมบัติในการเข้าเซลล์ได้สูง และความสามารถในการละลายสูง

น้ำอัลคาไลส์และสารต้านอนุมูลอิสระ

         เพื่อทำความเข้าใจเพิ่มเติมเกี่ยวกับประโยชน์ของน้ำอัลคาไลส์   เราต้องเข้าใจแนวคิดเกี่ยวกับอนุมูลอิสระ และสารต้านอนุมูลอิสระ อนุมูลอิสระเป็นสารเคมีที่ไม่เสถียร ที่เกิดขึ้นในร่างกายระหว่างการเผาผลาญของเซลล์ตามปกติ หรือการสัมผัสกับสารพิษจากสิ่งแวดล้อมที่พบในมลพิษทางอากาศ, อาหาร และน้ำ       อนุมูลอิสระ สามารถช่วยให้ร่างกายของเราสร้างพลังงานและต่อสู้กับการติดเชื้อ   แต่เมื่อเรามีอนุมูลอิสระมากเกินไป ก็จะโจมตีเซลล์ที่มีสุขภาพดีทำให้แก่ก่อนวัย      การเกิดออกซิเดชั่นของสนิม น่าจะเป็นการเปรียบเทียบที่ดีที่สุดว่า อนุมูลอิสระส่วนเกินทำงานอย่างไรในร่างกายของเรา
         หากปล่อยให้เป็นไปโดยไม่ถูกตรวจสอบ   อนุมูลอิสระ อาจทำให้เกิดความเสียหายต่อเซลล์       ความเสียหายจากอนุมูลอิสระ (หรือ
ออกซิเดชั่น) เชื่อมโยงกับการก่อตัวของโรคเสื่อมทุกชนิดที่รู้จักกัน ได้แก่ มะเร็ง, โรคหัวใจ และหลอดเลือด, ต้อกระจก และกระบวนการชรา
         อนุมูลอิสระ เป็นสารที่มีปฏิกิริยาสูง ซึ่งโจมตีโมเลกุลโดยการขโมยอิเล็กตรอน และปรับเปลี่ยนโครงสร้างของสารนั้น       นิวเคลียสของอะตอมล้อมรอบด้วยเมฆอิเล็กตรอน    อิเล็กตรอนเหล่านี้ล้อมรอบนิวเคลียสเป็นคู่    เมื่ออะตอมสูญเสียอิเล็กตรอนออกจากอะตอม  จึงเกิดอิเล็กตรอนที่“ ไม่จับคู่”    อะตอมนั้นจะกลายเป็น “อนุมูลอิสระ”

        ดังนั้น อนุมูลอิสระจึงเป็นเพียงโมเลกุลที่มีอิเล็กตรอนที่ไม่มีคู่     โมเลกุลมีปฏิกิริยาสูง และแสวงหาอิเล็กตรอนอื่นในการจับคู่     และเริ่มเป็นปฏิกิริยาลูกโซ่ที่ไม่สามารถควบคุมได้ ซึ่งทำลายการทำงานตามธรรมชาติของเซลล์ของสิ่งมีชีวิต   ทำให้เกิดโรคต่างๆ และการหยุดชะงักของการทำงานปกติของระบบต่างๆของร่างกาย (ระบบภูมิคุ้มกัน, ระบบประสาท ฯลฯ )     เพื่อต่อต้านผลกระทบของอนุมูลอิสระ (หรือออกซิเดชั่น) เราต้องการความช่วยเหลือจากสารต้านอนุมูลอิสระ     การใช้สารต้านอนุมูลอิสระ กลายเป็นเรื่องปกติมากขึ้นในสังคม และชีวิตประจำวันของเรา
         สารต้านอนุมูลอิสระ เป็นเพียงสารประกอบที่สามารถยับยั้งการเกิดออกซิเดชั่น     วิตามินอี, วิตามินซี และเบต้าแคโรทีน เป็นตัวอย่างของสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยปกป้องเซลล์ของร่างกายจากผลกระทบที่เป็นอันตรายของออกซิเดชั่น

น้ำอัลคาไลส์ช่วยต่อสู้กับอนุมูลอิสระและออกซิเดชั่นได้อย่างไร?

         กรด จะปล่อยไอออน H + เข้าสู่ของเหลวในร่างกาย     น้ำอัลคาไลส์ จะปล่อย OH- ซึ่งจะไปทำให้ผลกระทบของกรดที่เรากินจากอาหารทั่วไป หรือสัมผัสในสภาพแวดล้อม เป็นกลาง      OH- คือ ไอออนชนิดหนึ่งที่ทำหน้าที่เป็นผู้บริจาคอิเล็กตรอน, ต่อต้านอนุมูลอิสระที่สร้างออกซิเดชั่น     โปรดจำไว้ว่า อนุมูลอิสระถูกสร้างขึ้นโดยการสูญเสียอิเล็กตรอน     สภาวะที่เป็นกรด  จะกระตุ้นอนุมูลอิสระที่ทำลายเซลล์ และทำลายดีเอ็นเอ       การลดระดับ pH ของร่างกาย (ความเป็นกรดสูงขึ้น) หมายความว่า มีไอออน H + อิสระ ซึ่งเป็นสารออกซิไดซ์ ลอยอยู่รอบ ๆ ร่างกาย       เครื่องหมาย“ +” คือ ระดับของการเกิดออกซิเดชันของไฮโดรเจนไอออน     

      การวัดปริมาณประจุในน้ำ หากมีประจุโดยรวมเป็นลบ (เช่น OH-) ไอออนเหล่านี้ จะต่อต้านความเป็นกรดของไอออน H + ที่สร้างขึ้นโดยกรด     กระบวนการไอออไนซ์ของน้ำ ไม่เพียงแต่ทำให้เป็นน้ำอัลคาไลน์เท่านั้น  แต่ยังเป็นน้ำที่มีศักยภาพในการลดออกซิเดชั่น (ORP)       ซึ่งมีศักยภาพในการลดอ๊อกซิเดชั่นมากกว่าวิตามินซี หรือสารต้านอนุมูลอิสระอื่น ๆ อย่างมีนัยสำคัญ    คุณไม่สามารถบริโภคสารต้านอนุมูลอิสระอื่น ๆ เหล่านี้ได้เพียงพอเพื่อให้เท่ากับระดับของ ORP ที่ได้มาจากกระบวนการไอออไนเซชันของน้ำ     การดื่มน้ำที่ผลิตจากกระบวนการไอออไนเซชัน  ทำให้ร่างกายเป็นธรรมชาติมากขึ้น และเกิดสภาวะสมดุลของ pH    การเผาผลาญของเซลล์ และสุขภาพที่ดีขึ้น

         ไอออนที่มีประจุลบที่อยู่ในน้ำที่ผลิตจากกระบวนการอิเล็คโทรไลซิสนี้  จะทำปฏิกิริยากับกรดใด ๆ ก็ตาม (H +)     ดังนั้น จึงช่วยรักษา pH ที่สมดุลในร่างกาย ซึ่งเราต้องการสำหรับการเผาผลาญของเซลล์ที่ดีต่อสุขภาพ (จำไว้ว่าความเป็นกรดคือ ต่ำกว่า 7.0 pH)     ดังนั้น การบริโภค ionized, alkaline water จะต่อสู้กับผลกระทบของอาหารที่เป็นกรด และการสัมผัสกับสารพิษในสิ่งแวดล้อม ซึ่งทำให้เราอยู่ในสภาพที่ขาดน้ำและเป็นกรด
         การดื่มน้ำที่มีคุณสมบัติเหมาะสม  ไม่ใช่น้ำอะไรก็ได้  มีความสำคัญต่อสุขภาพและการป้องกันโรค    ซึ่งมีความจำเป็นกว่าที่เคยในสังคมศตวรรษที่ 21 ที่เป็นกรดของเรา

"โดยส่วนตัว ผมสามารถเป็นพยานได้ว่า ชีวิตของผม ได้รับประโยชน์อย่างไม่ต้องสงสัย จากการดื่ม Kangen Water ... ผมแนะนำให้ดื่ม Kangen Water ในฐานะแพทย์, ในฐานะศัลยแพทย์, ในฐานะมนุษย์ 100% ผมรู้สึกว่ามันเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อมวลมนุษยชาติ .... "
Horst S.Filtzer, MD, F.A.C.S.
อดีตหัวหน้าแผนกศัลยกรรมโรงพยาบาลเคมบริดจ์โรงเรียนแพทย์ฮาร์วาร์ด