ไอออนลบ (Negative ions) มีผลบวก แต่ไอออนบวก (positive ions) มีผลลบ

         อะตอมที่มีอิเล็กตรอนตัวหนึ่งถูกกำจัดออกไป  เรียกว่า  ไอออนบวก (positive ions)   แต่อะตอมที่มีอิเลคตรอนเกินมาเรียกว่า  ไอออนลบ (negative ions)

       

         เป็นที่ทราบกันดีว่า  การบริโภคอาหารที่มีความเป็นด่างมากขึ้น เช่น ผัก และผลไม้ มีประโยชน์ต่อสุขภาพของมนุษย์    ในทางกลับกัน ค่า pH ที่เป็นกรดในร่างกาย  ทำให้ร่างกายอ่อนแอ และง่ายต่อการเกิดความเจ็บป่วย    การที่เลือดมีพีเอชค่อนข้างเป็นกรด  เกิดจากการสูญเสียอิเล็กตรอน   สามารถป้องกันได้ด้วยไอออนลบ  ซึ่งมีอิเลคตรอนจำนวนมากที่ช่วยปรับปรุงภูมิต้านทานของร่างกาย และต้านทานโรคต่างๆ    นี่คือเหตุผลที่น้ำคังเก้น   “น้ำประจุลบ” กำลังได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ ในปัจจุบัน

 

         ร่างกายมนุษย์ล้อมรอบด้วยไอออน   ดังนั้น  การทำงานของอิเล็กตรอนภายใน และภายนอกเซลล์จึงมีอิทธิพลอย่างมากต่อร่างกายมนุษย์   ทำให้ร่างกายแข็งแรงหากได้รับไอออนที่ดี    เมื่อปริมาณไอออนลบในร่างกายมีมากขึ้น มันจะทำให้ความต้านทาน และภูมิคุ้มกันของร่างกายแข็งแรงขึ้น    และเมื่อปริมาณประจุไฟฟ้าลบในร่างกายเพิ่มขึ้นอีก ก็จะบรรเทาความเจ็บป่วยได้    ไอออนลบในร่างกายของเรา         มีความสำคัญต่อการดำรงอยู่ และปรับปรุงสุขภาพของเรา

 

         เมแทบอลิซึม  ซึ่งเป็นกระบวนการของการรับสารอาหารจากเลือด และการขับของเสียออกจากร่างกาย  มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อเซลล์ของมนุษย์    ยิ่งมีประจุไฟฟ้าลบในเลือดมากเท่าใด   กระบวนการเมแทบอลิซึมของเซลล์ก็จะยิ่งมีประสิทธิภาพมากขึ้นเท่านั้น

ในทางตรงกันข้าม   ยิ่งไอออนที่มีประจุบวกในเลือดมากเท่าใด   เมแทบอลิซึมของเซลล์ก็จะยิ่งช้าลง และมีประสิทธิภาพน้อยลง   ทำให้เซลล์ของร่างกายอ่อนแอ และร่างกายมีแนวโน้มจะเจ็บป่วยได้ง่ายและแก่เร็วขึ้น

การทดลองเกี่ยวกับประจุไฟฟ้า และการซึมผ่านของเยื่อหุ้มเซลล์

         ในการทดลอง ผิวหนังถูกใช้เพื่อเป็นตัวแทนของเยื่อหุ้มเซลล์    เมื่อไอออนที่มีประจุบวกซึมเข้าสู่ผิว รูขุมขนและต่อมเหงื่อก็เริ่มหดตัว  เมื่อไอออนประจุไฟฟ้าลบถูกแทรกซึมเข้าสู่ผิว รูขุมขนและต่อมเหงื่อก็ขยายตัว ซึ่งแสดงให้เห็นถึงเมแทบอลิซึมที่ดีของเยื่อหุ้มเซลล์ ปรากฏการณ์นี้เรียกว่า Prototype Plasma Membranes of Dermal Reflectivity     

 

         Dr. Arudoman แห่งเยอรมนีก็ได้ทำการวิจัยเกี่ยวกับอิทธิพลของไอออนที่มีต่อร่างกายมนุษย์ เขาเสนอสมมติฐานต่อไปนี้ –

ไอออนประจุลบมีประโยชน์ต่อร่างกายมนุษย์ใน 4 วิธีหลัก:

  1. ช่วยเสริมสร้างการทำงานของเส้นประสาทอัตโนมัติ
  2. เสริมสร้างคอลลาเจน (เนื้อเยื่อที่ยืดหยุ่น และเกี่ยวข้องกับความตึง)
  3. ปรับปรุงการซึมผ่านของพลาสมาเมมเบรนของต้นแบบของเซลล์ (cell’s prototype) (ปรับปรุงการเมแทบอลิซึม) และ
  4. เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย

ไอออนลบ กับอาการซึมเศร้าและอารมณ์

         ไอออนลบ  ยังแสดงให้เห็นว่า  ช่วยให้อารมณ์ดีขึ้น   บรรเทาภาวะซึมเศร้า และความผิดปกติทางอารมณ์ตามฤดูกาล (seasonal affective disorder หรือ SAD)    ปัจจุบัน  มีแม้กระทั่งสิทธิบัตรโดยนักวิจัยและสถาบันที่โดดเด่น  สำหรับการรักษาภาวะซึมเศร้าด้วยไอออนลบ

ไอออนลบส่งผลต่อร่างกายมนุษย์อย่างไร?

      ดร.โรเบิร์ต โอ. เบกเกอร์ นักวิจัย, ผู้บุกเบิก และผู้แต่งหนังสือ The Body Electric and Cross Currents ได้ระบุว่า  ระบบพลังงานภายในร่างกายของเราประกอบด้วยแรง 2 แรง (forces) คือ แรงแม่เหล็ก (magnetism) และไฟฟ้า (electricity)   โดยส่วนประกอบไฟฟ้าประกอบด้วย สนามไฟฟ้ากระแสตรง (DC) ความถี่ต่ำ-   ระบบพลังงานแม่เหล็กไฟฟ้านี้  ได้รับผลกระทบจากสภาพแวดล้อมทางแม่เหล็กไฟฟ้าตามธรรมชาติของโลก ซึ่งโดยปกติค่อนข้างเงียบ โดยมีการแปรผันของจังหวะ (rhythmic variations) เล็กน้อย    แต่จะได้รับผลกระทบเพิ่มขึ้นอย่างมากในสภาพแวดล้อมที่มีประจุแม่เหล็กไฟฟ้าสูง

 

      การศึกษาจำนวนมาก  ได้ระบุผลกระทบของสภาพแวดล้อมที่มีประจุลบต่อร่างกายมนุษย์    สภาพแวดล้อมที่มีประจุลบ

  • กระตุ้นกลไกการรักษาของร่างกายในกรณีที่เกิดความเครียดและปัญหาทางกายภาพบางอย่าง
  • เพิ่มการไหลเวียนของเลือด  ทำให้ความสามารถในการนำส่งออกซิเจนเพิ่มขึ้น ซึ่งทั้งสองอย่างนี้เป็นพื้นฐานที่จะช่วยให้ร่างกายสามารถรักษาตัวเองได้
  • เกิดการเปลี่ยนแปลงการเคลื่อนที่ของแคลเซียมไอออน  ซึ่งอาจทำให้มีการเคลื่อนย้ายแคลเซียมไอออนมารักษากระดูกหักได้ภายในเวลาเพียงครึ่งเดียวของเวลาปกติ   หรือสามารถช่วยย้ายแคลเซียมออกจากข้อต่อที่บาดเจ็บ และข้อต่อที่อักเสบได้
  • ช่วยรักษาค่า pH ที่สมดุล (กรด/ด่าง) ของของเหลวต่างๆในร่างกาย (ซึ่งมักเสียสมดุลเมื่อเกิดอาการป่วยหรืออาการผิดปกติ)
  • การผลิตฮอร์โมนจากต่อมไร้ท่อ  สามารถเพิ่มขึ้นหรือลดลงได้โดยการกระตุ้นของไอออนลบ
  • การเปลี่ยนแปลงการทำงานของเอนไซม์และกระบวนการทางชีวเคมีอื่นๆ

ไอออนลบ เป็นทางเลือกในอุดมคติด้านสุขภาพ วิทยาศาสตร์ และการแพทย์

บทความจาก Alternative Ideas in Health, Science, and Spirituality (http://www.sumeria.net/health/ions.html) สรุปว่า

  1. ไอออนลบเร่ง oxidative degradation ของเซโรโทนิน   ในขณะที่ไอออนบวก มีผลตรงกันข้าม  และไปยับยั้งการทำงานของเอ็นไซม์ที่ทำลายเซโรโทนิน
  2. การเพิ่มขึ้นของระดับ serotonin (5-hydroxytryptamine) ทำให้เกิด:
  • ภาวะหัวใจเต้นเร็วกว่าปกติ (Tachycardia)
  • ความดันโลหิตเพิ่มขึ้น
  • หลอดลมหดเกร็งไปจนถึงโรคหอบหืด
  • การบีบตัวของลำไส้เพิ่มขึ้น (การหดตัวและการขยายตัวของลำไส้  เพื่อเคลื่อนอาหารไปข้างหน้า)
  • เพิ่มความไวต่อความเจ็บปวด
  • เพิ่มความก้าวร้าว
  1. ระดับเซโรโทนินที่ลดลง  จะทำให้สงบ  และเพิ่มการป้องกันการติดเชื้อ (ตามที่พิสูจน์ด้วย ‘ไข้หวัดใหญ่’)
  2. ไอออนลบจะทำให้ฮีโมโกลบิน จับกับออกซิเจนได้ดีขึ้น   ทำให้ partial oxygen pressure ในเลือดสูงขึ้น   แต่ partial carbon dioxide pressure ลดลง    ส่งผลให้อัตราการหายใจลดลง  และเพิ่มเมแทบอลิซึมของวิตามินที่ละลายในน้ำ

 

         นอกจากนี้ ไอออนลบยังทำให้ pH เพิ่มขึ้น   และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง การเพิ่มขึ้นในการหลั่งของเยื่อเมือก  และการเพิ่มขึ้นของการเคลื่อนไหวของซิเลียในทางเดินหายใจ

         “จำความรู้สึกที่คุณเคยสัมผัสได้  ใกล้น้ำตกหรือบนภูเขาสูงไหม   นั่นคือสถานที่สองแห่งที่มีประจุลบนับพันเกิดขึ้น พวกมันสร้างผลกระทบต่อชีวเคมีของมนุษย์”

      จำนวนไอออนปกติในอากาศบริสุทธิ์ของประเทศคือ 2,000 ถึง 4,000 ไอออนลบต่อลูกบาศก์เซนติเมตร (ประมาณขนาดของน้ำตาลก้อน)    ที่น้ำตกบางแห่ง คุณจะได้สัมผัสกับไอออนลบมากกว่า 100,000 ตัวต่อลูกบาศก์เซนติเมตร    ในทางกลับกัน ระดับต่ำกว่า 100 ต่อลูกบาศก์เซนติเมตรบนทางด่วนลอสแองเจลิสในช่วงชั่วโมงเร่งด่วน”

         ตอนนี้  คุณรู้แล้วว่า “ประจุลบ” ให้ผลดีกับร่างกายขนาดไหน   ดังนั้น  คุณควรหายใจเอาอากาศที่มีประจุลบให้มากที่สุด  นั่นคือ  พยายามไปอยู่บริเวณที่อากาศบริสุทธิ์  โดยเฉพาะบริเวณน้ำตก และภูเขาสูง  และควรดื่มน้ำที่มีประจุลบสูงสุด  นั่นคือ “น้ำคังเก้น” 

307 Shares